ANN & GOOD THINGS IN MY LIFE (^_^)
Monday, March 26, 2007
Tuesday, February 27, 2007
+ Good phrase about LOVE +
เพราะความคิดเป็นจุดเริ่มต้นของความรัก
บางที.. ความรักอาจทำให้คนเราเปลี่ยนแปลงความคิดไปจากเดิม
อาจทำให้คนเราต้องปรับปรุงในสิ่งที่เคยทำ เพียงเพื่อให้เข้ากับใครอีกคน
ความรักทำให้เกิดความเคารพ ศรัทธา
คุณจะไม่สามารถรักใครได้ ถ้าไม่รู้สึกเชื่อมั่นเสียก่อน
และคนแรกที่คุณต้องศรัทธาเชื่อมั่น ก็คือตัวเอง
ความรักคือการให้ ถ้าคุณต้องการที่จะได้ความรัก
สิ่งที่คุณต้องทำก็คือการให้ ยิ่งให้.. คุณก็จะยิ่งได้รับ
สูตรลับของความสุขและทำให้มิตรภาพยืนยาว
ที่คุณควรจะจำเอาไว้เสมอก็คือ
อย่าถามว่าคนอื่นให้อะไรคุณบ้าง
แต่ให้ถามว่าคุณทำอะไรให้คนอื่นบ้างจะดีกว่า
ในความรักมีมิตรภาพซ่อนอยู่
อยากได้รักแท้ ก็ต้องหาเพื่อนแท้ให้ได้เสียก่อน
การจะรักกันได้ไม่ใช่แค่มองตา แต่อยู่ที่ว่า..
ต่างคนต่างมีอะไรที่ตรงกันหรือเปล่า
หากจะรักใครอย่างจริงใจ คุณควรจะรักในสิ่งที่เขาเป็น ไม่ใช่แค่ภาพที่คุณเห็น
มิตรภาพก็เหมือนกับปุ๋ย ที่ช่วยทำให้ความรักเบ่งบานเติบโตทุก ๆ วันนั่นเอง
การสัมผัส ช่วยสานต่อความรักให้ดีขึ้น
เคยรู้สึกดีใช่มั้ยเวลาที่มีใครโอบไหล่หรือกอดคุณ?
การสัมผัส.. จึงเป็นการแสดงออกอย่างหนึ่งที่มีพลัง
และช่วยทลายกำแพงแห่งความชิงชังไม่เข้าใจได้อีกด้วย
น่าแปลกที่การสัมผัสสามารถเปลี่ยนแปลงอารมณ์และท่าทีที่แข็งกร้าวให้เบาบางลงได้
อยากรักต้องรู้จักปลดปล่อย
ถ้าคุณรักใคร.. จงปล่อยให้เขาเป็นอิสระบ้าง
เพราะคุณเองคงรู้สึกอึดอัด ถ้ามีใครมาล่ามโซ่คุณ
ดังนั้น..จงเรียนรู้ที่จะให้อภัยและลืมอดีตที่ไม่ดี
เรียนรู้ที่จะปลดปล่อยความกลัวภายในใจ
เรียนรู้ที่จะยุติธรรมและลดทิฐิ รวมถึงเงื่อนไขต่าง ๆ ลงบ้าง
ลองบอกตัวเองว่า.. นับแต่นี้ คุณจะทิ้งความกลัวทั้งหมด
แล้วอดีตจะไม่มีผลอะไรต่อตัวคุณได้..
นับจากวันนี้ไป คุณก็จะได้เริ่มต้นชีวิตใหม่เสียที
ชีวิตจะเปลี่ยนไป
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน
เมื่อเราเรียนรู้ที่จะเปิดใจให้กว้างและซื่อสัตย์ต่อกัน
รวมถึง.. คุยกับคนรักอย่างเปิดเผย
และกล้าที่จะพูดถ้อยคำวิเศษว่า "ฉันรักเธอ"
โดยไม่ปล่อยให้โอกาสดี ๆ หลุดลอยไป
คุณควรจะบอกรักก่อนจากกันทุกครั้งเสมอ
เพราะบางที.. นั่นอาจเป็นครั้งสุดท้ายที่คุณจะพบกัน!
แก่นแท้ของความรัก คือการไว้ใจกัน
ถ้าคุณไม่เชื่อใจกัน ใครคนหนึ่งจะรู้สึกระแวง กังวล และหวาดหวั่น
ขณะที่อีกคนรู้สึกอึดอัดใจ ที่สำคัญ..
คุณไม่อาจรักใครจริง ๆ ได้ ถ้าคุณไม่ไว้ใจเขาคนนั้นอย่างแท้จริง
Monday, January 29, 2007
11 lesssons in life!!
1. It hurts to love someone and not be loved in return, But what is morepainful is to love someone and never find the courage to let that person know how you feel.
2. A sad thing in life is when you meet someone who means a lot to you, only to find out in the end that it was never meant to be and you just have to let go.
3. The best kind of friend is the kind you can sit on a porch swing with, never say a word, and then walk away feeling like it was the best conversation you've ever had.
4. It's true that we don't know what we've got until we lose it, but it'salso true that we don't know what we've been missing until it arrives.
5. It takes only a minute to get a crush on someone, an hour to like someone, and a day to love someone-but it takes a lifetimeto forget someone.
6. Don't go for looks; they can deceive. Don't go for wealth; even that fades away. Go for someone who makes you smile because it takes only a smile to make a dark day seem bright.
7. Dream what you want to dream; go where you want to go; be what youwant to be, because you have only one life and one chance to do all the things you want to do.
8. Always put yourself in the other's shoes. If you feel that it hurts you,it probably hurts the person too.
9. A careless word may kindle strife; a cruel word may wreck a life; atimely word may level stress; a loving word may heal and bless.
10. The happiest of people don't necessarily have the best of everythingthey just make the most of everything that comes along their way.
11. Love begins with a smile, grows with a kiss, ends with a tear. When youwere born, you were crying and everyone around you was smiling. Live your life so that when you die, you're the one smiling and everyone around you is crying.
Tuesday, January 16, 2007
Sunday, December 24, 2006
Christmas Traditions Around the World 2
Christmas in Austria
The feast of St Nicholas marks the beginning of Christmas in Austria. The saint accompanied by the devil asks children for a list of their good and bad deeds. Good children are given sweets, toys and nuts. Gifts that are placed under the tree are opened after dinner on Christmas Eve.
Brass instruments play chorale music room church steeples, and carol singers, carrying blazing torches and a manger from house to house, gather on the church steps.
Silent Night was first sung in 1818, in the village church of Oberndorf. There is a story told of how Christmas was almost spoiled for the villagers that year.
On Christmas Eve, the priest went into the church and found that the organ was not working. The leather bellows that are used to pump the air through the pipes were full of holes. Christmas without music would not do so the priest showed the organist Franz Bauer a new Christmas hymn he had written. Franz quickly composed a tune for it that could be played on a guitar. So Oberndorf had music after all.
In Austria baked carp is served for the traditional Christmas dinner.
December 6 in Austria is when Heiliger Nikolaus or St. Nicholas, rewards good children with sweets, nuts and apples.
On December 24, the Christ Child brings presents and the Christmas tree for the children. The children wait until they hear a bell tinkling. Then they enter a special room where the Christmas tree is waiting all decorated with candles, ornaments and candies. The whole family sings Christmas carols and wishes each other:
Christmas Traditions Around the World 1
Christmas in England
The English enjoy beautiful Christmas music. They love to decorate Christmas Trees and hang up evergreen branches.
One England's customs is mummering. In the Middle Ages, people called mummers put on masks and acted out Christmas plays. These plays are still performed in towns and villages.
The English gift giver is called Father Christmas. He wears a long red or green robe, and leaves presents in stockings on Christmas Eve. However, the gifts are not usually opened until the following afternoon.
Christmas in England began in AD 596, when St Augustine landed on her shores with monks who wanted to bring Christianity to the Anglo Saxons.
Father Christmas delivers them during the night before Christmas. The Children leave an empty stocking or pillowcase hanging at the end of the bed. In the morning they hope it will be full of presents.
In England the day after Christmas is called Boxing Day because boys used to go round collecting money in clay boxes. When the boxes were full, they broke them open.
In England Christmas dinner was usually eaten at Midday on December 25, during daylight.
In England, the only thing that people ate on the day before the feast was Frumenty, which is, was a kind of porridge made from corn. Over the years the recipe changed. Eggs, fruit, spice, lumps of meat and dried plums were added. The whole mixture was wrapped in a cloth and boiled. This is how plum pudding began.
In England the traditional Christmas dinner is roast turkey with vegetables and sauces. For dessert it is rich, fruity Christmas pudding with brandy sauce. Mince pies, pastry cases filled with a mixture of chopped dried fruit.
In England also they elect Boy Bishops in commemoration of St. Nicholas compassion for children. These mock bishops were allowed to do the duties of the ecclesiastic except deliver the Mass.
Sunday, November 26, 2006
แนะนำมาสคอต งานราชพฤกษ์ 3
น้องคูน เป็น Mascot หรือสัญลักษณ์ตุ๊กตางานมหกรรมพืชสวนโลก นำทีมตุ๊กตาราชพฤกษ์ออกทัวร์ ออกทัวร์ทั่วไทย เชิญชวนคนไทยร่วมเป็นเจ้าภาพจัดงานมหกรรมพืชสวนโลก ซึ่งเป็นศูนย์รวมจัดแสดงพืชพรรณไม้ดอกไม้ประดับเขตร้อนกว่า 2,200 ชนิด กว่า 2 ล้าน 5 แสนต้น สู่สายตานานาประเทศทั่วโลก ผมชื่อ "น้องคูน" ส่วนชื่อจริงนั้นเรียกว่า "ราชพฤกษ์" ซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติไทย ผมขอรับอาสาเป็นหัวหน้าทีมพาเพื่อนๆเที่ยวงาน "ราชพฤกษ์ 2549" อันที่จริงเห็นผมตัวแค่นี้ แต่ผมเป็นคนที่รักการผจญภัย และรักธรรมชาติมาก แถมยังชอบความผาดโผน และใฝ่หาความรู้อย่างสม่ำเสมอ ด้วยความที่ชอบคิดอะไรใหม่ๆ ผมจึงชอบคิดหาวิธีเล่นแผลงๆให้กับเพื่อนๆอยู่เสมอ
น้องกุหลาบ ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน "ดอกกุหลาบควีนสิริกิติ์" ดอกกุหลาบลูกผสมระหว่าง Colour Wonder และ Golden Giant เป็นกุหลาบประเภทดอกใหญ่ (Hybrid Tea) มีลำต้นแข็งแรง ตัวกลีบดอกสีเหลืองขอบสีแดงระเรื่อ ลักษณะซ้อนกันหลายชั้น และมีกลิ่นหอมอ่อน ๆ "กุหลาบ" เป็นสาวสวยสาวสวยประจำกลุ่มที่มีความอ่อนหวาน เฉลียวฉลาด อ่อนน้อมถ่อมตน ใจเย็นและรอบคอบ เป็นหญิงสาวสมัยใหม่ทันสมัยแต่เพียบพร้อมไปด้วยคุณสมบัติของกุลสตรีไทยที่ชอบทำกับข้าวและเย็บปักถักร้อย
นารี ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน ดอกกล้วยไม้รองเท้านารี เป็นเจ้าหญิงน้อยจอมซนซึ่งอาศัยอยู่ข้างบ้านของ"กุหลาบ" ความที่ "นารี" มีบุคลิกที่ค่อนข้างซุกซนจึงมักจะก่อเรื่องวุ่นวายให้กับคนรอบข้าง แต่ด้วยความเฉลียวฉลาด หรือบางทีเป็นการฉลาดแกมโกง "นารี" จึงมีเรื่องตลกมาให้เพื่อนๆ พี่ ๆ ได้หัวเราะกันเสมอ
บัว ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน ดอกบัว "ราชินีแห่งไม้น้ำ" สัญลักษณ์ของความบริสุทธิ์ผุดผ่อง และคุณงามความดีในพุทธศาสนา "บัว" จึงมีบุคลิกของสาวสวยที่คงรักษาขนบธรรมเนียม ประเพณีไทยไว้อย่างเคร่งครัดทุกกระเบียดนิ้ว การที่ "บัว" เติบโตอยู่ในตระกูลผู้ดีเก่าจึงได้รับการถ่ายทอดวิชาการทำอาหาร- ขนม การร้อยมาลัย และการแกะสลักผักผลไม้ ฯลฯ มาจากในวัง "บัว" เป็นหญิงไทยเต็มร้อย จึงมีนิสัยอ่อนแอ ชอบร้องไห้ ขี้หวาดกลัว ในกลุ่มเพื่อนบัวจะสนิทกับกุหลาบ เพราะเป็นเพื่อนเล่นกันมาตั้งแต่เด็ก ดังนั้นทั้งคู่มักจะอยู่ด้วยกันเสมอ
ก้านยาว ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน "ทุเรียน" ผลไม้ที่ได้รับการยกย่องให้เป็นราชาของผลไม้ "ก้านยาว" เป็นหนุ่มเมืองจันท์ มีร่างกายที่อ้วนท้วนสมบูรณ์ และด้วยความที่เป็นหนุ่มอารมณ์ดี ขี้เล่น มองโลกในแง่ของความเป็นจริง และเป็นตัวตลกประจำกลุ่มที่สร้างรอยยิ้มให้เพื่อนๆ ได้เสมอ จึงเป็นที่รักของทุกคนที่ได้พูดคุยด้วย นอกจากนี้ก้านยาวยังเป็นคนที่ชอบอ่านหนังสือ รักการเรียนรู้ทางการเกษตรและพันธุ์พืชเขาจึงชอบเข้าไปคุยกับตาทุ่งซึ่งทำให้เขามีความรู้ด้านการเกษตรมากขึ้นอีกด้วย
Saturday, November 18, 2006
แนะนำมาสคอต งานราชพฤกษ์ 2
มังคุด ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน "มังคุด" ราชินีของผลไม้ เป็นผลไม้เมืองร้อนที่มีรสชาติหวานอร่อย เนื้อในมีสีขาวสะอาด "มังคุด" เป็นขวัญใจของหนุ่มก้านยาว เป็นสาวไฮโซที่มีความมั่นใจในตัวเองสูง ชอบความหรูหรา รสนิยมทันสมัย และหลงตัวเอง ชอบการแสดงออกทั้งการร้องเพลง รวมไปถึงการถ่ายแบบและมีวิธีการพูดจาเป็นภาษาสมัยใหม่ประเภทไทยคำฝรั่งคำ
ฝักบัว ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน "ฝักบัวรดน้ำ" เป็นหนุ่มน้อยผู้คอยดูแลสวน รักการปลูกต้นไม้เป็นชีวิตจิตใจ ในแต่ละวันจะคอยรดน้ำ พรวนดินและคอยดูแลเอาใจใส่ต้นไม้ ดอกไม้ทั้งหลายให้เติบโตและเบ่งบาน เวลาเพื่อนๆทะเลาะกัน ฝักบัวจะเป็นคนคอยห้ามเสมอๆ จึงเป็นที่รักของผองเพื่อน
แนะนำมาสคอต งานราชพฤกษ์ 1
จ้อน ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน "ผักกาด" ที่มีต้นกำเนิดอยูในทวีปเอเชีย "จ้อน" เป็นเด็กน้อยจากยอดดอยผู้รักการผจญภัย และใฝ่ฝันจะเดินทางรอบโลก เพื่อให้จอผักกาดได้เป็นอาหารระดับโลก "จ้อน" มีนิสัยขี้หงุดหงิดและชอบโวยวาย ชอบทำตัวเปิ่นๆ เชยๆ พูดจาไม่ค่อยรู้เรื่อง ชอบคิดว่าตัวเองเท่ห์และเก่งกล้า แต่เวลาพอเกิดเรื่องอะไรขึ้นมา จ้อนก็มักจะหลบหนีไปก่อนอยู่เรื่อย "จ้อน" มีปฏิญาณว่าจะต้องแกล้งนารีให้ได้สักครั้ง แต่ทว่าจ้อนก็ต้องแพ้ภัยตัวเองอยู่เสมอ
และสุดท้าย "ตาทุ่ง" คุณตาใจดี ที่ทำหน้าที่เป็นสัญลักษณ์สื่อแทน "หุ่นไล่กา" ซึ่งเป็นทาสผู้ซื่อสัตย์ของชาวนา ทำหน้าที่ยืนตากแดด ตากลม สู้ฝน เพื่อไล่ฝูงนกกาไม่ให้ลงมาทำลายแปลงนาข้าว "ตาทุ่ง" มักจะมีเรื่องราวมากมายมาเล่าให้หลาน ๆ ฟังจึงเป็นที่รักของเด็กๆ เพราะนอกจากนิทานสนุกๆ แล้ว ตาทุ่งยังเป็นแหล่งความรู้และที่ปรึกษาชั้นเยี่ยมอีกด้วย โดยเฉพาะกับ "ก้านยาว" หนุ่มเมืองจันท์ที่มักจะแวะเวียนมาหาตาทุ่ง เพื่อขอความรู้ในด้านทำการเกษตรและเรื่องของความรักซึ่งตาทุ่งไม่เคยทำให้ก้านยาวผิดหวัง