Friday, March 31, 2006

!! Today Is My Birthday !! (I'm very lonely)

วันเกิดเราปีนี้ น่าเหงาจัง ไม่มีใครจำได้เลย เลยต้องทำอะไรปลอบใจตัวเองบ้าง น่าแปลกแฮะ
ไหนๆก็เป็นวันนี้ ไปดูหนังคลายเครียดดีกว่า ขอบคุณจ๊ะจ๋ามากที่อย่างน้อยจ๊ะจ๋าก็เป็นคนนึงที่จำวัน
เกิดเราได้ อีก 20 วัน ก็ถึงวันเกิดของจ๊ะจ๋า ขอให้มีความสุขมากๆนะ

Tuesday, March 21, 2006

(* *)Take Me To Your Heart (This Love)


Take Me To Your Heart
MICHAEL LEARNS TO ROCK
Hiding from the rain and snow
Trying to forget but I won't let go
Looking at a crowded street
Listening to my own heart beat
So many people all around the world
Tell me where do I find someone like you girl
(*) Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand before I'm old
Show me what love is-haven't got a clue
Show me that wonders can be true
(**) Thay say nothing lasts forever
We're only here today
Love is now or never
Bring me far away
(***) Take me to your heart take me to your soul
Give me your hand and hold me
Show me what love is-be my guiding star
It's easy take me to your heart
Standing on a mountain high
Looking at the moon through a clear blue sky
I should go and see some friends
But they don't really comprehend
Don't need to much talking without saying anything
All I need is someone who makes me wanna sing
(repeat *,**,***)

Thursday, March 09, 2006

.:":.0 Special diary trip's Mae Klong 0.:":.2









(ต่อจากคราวที่แล้ว)

เมื่อถึงแล้วเราก็เดินไปยังบ้านลุงของหมิง เพื่อนั่งเรือไปดูหิ่งห้อย บ้านของลุงหมิงอยู่ติดริมน้ำด้วย ลุงเอาเรือออกมาแล้วกำลังเอาเครื่องใส่อยู่ โดยมีเอ็มช่วยลุงด้วยอีกแรง อ้อ!น้องไกด์ด้วย(น้องชายของหมิง)เอ็มกลัวพวกโทรศัพท์แล้วก็เงินหล่นน้ำ แอนก็เลยให้เอามาฝากไว้ในกระเป๋าเป้ของแอน เอ็มก็เอามาฝากด้วย (แถมกางเกงเอ็มยังหลวมอีก ต้องคอยระวังกางเกงหลุด)แล้วจ๊ะจ๋าที่ถือกระป๋องคุ๊กกี้ที่ซื้อมาตอนแวะที่ปั๊มก็ทำฝาหล่นลงไปในน้ำด้วย เมื่อทุกอย่างพร้อมแล้ว เรือก็พร้อม เราก็จะขึ้นไปเที่ยวกัน โดยคุณแม่ของหมิงนั่งอยู่ที่หัวเรือก่อนแล้ว แอนไม่เคยขึ้นเรือแบบนี้เลยกลัวเหมือนกัน เอ็มก็กลัวจะจมน้ำ(บ้าจริง ผู้ชายอาไร้!)แล้วส้มก็เป็นคนที่ลงก่อนเป็นคนแรก ที่นั่งของเรือมีลักษณะเป็นขั้นๆที่เป็นไม้ ส้มก็นั่งคนเดียว 1 ที่นั่ง โดยคุณแม่หมิงนั่งอยู่ข้างหน้า หลังจากนั้นก็เป็นจ๊ะจ๋า แล้วก็ หมิง นั่งที่เดียวกัน 1 ที่นั่ง แล้วเอ็มก็บอกว่าให้แอนลงก่อน เอ็มจะช่วยส่งให้ แล้วเอ็มก็จับมือเราข้างซ้ายไว้ให้เราค่อยๆลงไป(เอ็มเป็นสุภาพบุรุษมาก เหมือนในละครเลย)เรือมันก็โคลงเคลงน่ากลัว เราก็นั่งไม้อันต่อจากที่จ๊ะจ๋ากับหมิงนั่ง หลังจากนั้นเอ็มก็ลงมา แล้วข้างหลังเราก็คือ อี๊ของหมิงกับน้องข้าวฟ่าง ถัดไปก็คือ น้องไกด์ แล้วก็ลุงหมิงคอยขับเรือพาพวกเราไป ในระหว่างนั่งเรือชมนั้น พอเจอเรือใครสวนทางเราก็จะ บาย บาย ให้พวกเขา สนุกมาก ลมก็เย็น แล้วเอ็มก็เอายาดมขึ้นมา เราก็เลยยึดมาครอบครองไว้ จะได้ไม่เวียนหัว พอถึงจุดที่มีหิ่งห้อยเราก็ต่างเรียกกันให้ดูใหญ่เลย ข้างนู้นบ้าง ข้างนี้บ้าง แอนก็เรียกให้เอ็มดู เอ็มก็เรียกให้แอนดูเหมือนกัน มีเสียงจากข้างหน้าแซวมาบ้างว่า เรา 2 คน โรแมนติกเชียว เป็นเสียงของส้มนี่เอง (ในบันทึกของเราตรงนี้ก็จะเป็นนิราศหิ่งห้อย ตามที่ได้เคยเล่าให้ฟัง ว่าเป็นความลับ) บางทีเอ็มก็เรียกให้เราเอามือจิ้มน้ำมาชิมด้วย ว่าเค็มหรือเปล่า เราก็ทำ มันก็เค็มเหมือนกันนะ สาเหตุที่เอ็มให้ทำ ก็เพราะน้ำกระเด็นเข้าปากเอ็มน่ะสิ (แล้วตอนหลังเอ็มก็มาว่าหาว่าเราโง่อีก บอกอะไรก็เชื่อ อ้าว ก็อยากรู้เหมือนกันนี่)พอดูหิ่งห้อยเป็นที่จุใจแล้ว เราก็จะกลับไปยงบ้านลุงที่เดิม ลืมบอกไปว่านอกจากหิ่งห้อยแล้วเรายังเจอนกยางที่อยู่บนต้นไม้ด้วยนะ และแล้วเรือก็ได้กลับมาถึงยังจุดเริ่มต้นที่เราออกมา ก็คือ บ้านลุง แล้วเราก็กล่าวขอบคุณ คุณลุง เมื่อเสร็จจากตรงนี้เรียบร้อยแล้ว แม่ของหมิงก็จะพาเราไปทานอาหารเย็น ในระหว่างเดินไปนั้น ก็ผ่านบ้านคนที่ติดริมน้ำสวยมาก บ้านบางหลังก็เป็น Home stay ไว้ให้นักท่องเที่ยวใช้บริการ ซึ่งเราก็หยุดถ่ายรูปกัน มีร้านที่ขายขนมเป็นร้านขายส่ง มีขนมเยอะแยะมากมายเลย ถ่ายรูปออกมาแล้วสวยมาก พอดีเรากลับจากดูหิ่งห้อยมาก็ดึกมากแล้ว ตลาดน้ำก็วายไปหมดแล้ว คุณแม่ก็เลยพาเรานั่งรถไปหาข้าวกินที่หน้าวัดเพชรสมุทรวรวิหารแทน มีอาหารเยอะแยะมากมายเลย พวกเพื่อนๆก็เลยให้เราเลือกร้านด้วยนะ เราบอกว่าร้านหมี่นี่น่ากินดี หมิงก็เลยเข้าร้านนี้เลย แต่เราไม่ได้กินหรอก เรากินข้าวขาหมูกับจ๊ะจ๋า 2 คน ส่วนเอ็มกินข้าวหมูแดง ร้านเดียวกัน ส่วนที่เหลือทานก๋วยเตี๋ยว หลังจากทานข้าวเสร็จ เราก็กลับไปยังบ้านหมิง

(<<<---อ่านต่อ คราวหน้า)